เมื่อพูดถึงเหล็กเกรด SM520 หรือเหล็กกล้ากำลังสูง (High Strength Steel) เหล็กที่ได้รับการพัฒนาและควบคุมการผลิตส่วนผสมทางเคมีอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้เหล็กคุณภาพที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของวิศวกรและสถาปนิกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งหลายครั้งประเด็นของการเลือกใช้เหล็กเกรด SM520 ต่อตัววิศวกรโครงสร้างหรือแม้แต่สถาปนิกบางราย มักถูกตั้งคำถามขึ้นว่า “เหล็ก SM520 เหมาะกับการนำไปใช้กับโครงสร้างประเภทใด และสามารถนำมาใช้ในโครงการของเราได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อโครงการ? ” บทความ 3 ย่อหน้านี้มีคำตอบ
โครงสร้างที่รับน้ำหนักมาก
หากโครงการของคุณคือหนึ่งในโครงการที่ต้องรับน้ำหนักมาก หรือมีลักษณะเป็นโรงงานหรือโกดังขนาดใหญ่ที่ต้องการรับนำหนักที่มาก ทั้งในส่วนของเสา หรือหลังคาที่อาจติดตั้ง Solar roof และต้องการโครงสร้าง Long Span ให้ดูกว้างและใช้เสาภายในอาคารให้น้อยต้น เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน เหล็ก SM520 จึงเหมาะกับการนำมาใช้เป็นโครงสร้างหลักของอาคารประเภทนี้ ด้วยที่มีคุณสมบัติเป็นเหล็กกล้ากำลังสูงสามารถรับแรงดึงได้ถึง 355-365 N / mm2 (~3,600 ksc) ในขณะที่เหล็ก SS400 จะมีค่าอยู่ที่ 235-245 N / mm2 (~2,400 ksc) และด้วยที่เหล็ก SM520 ความแข็งแรงเป็นพิเศษ จึงยังสามารถช่วยลดขนาดของ Footing งานรากฐานหรือเสาเข็มในงานก่อสร้างได้ เนื่องจากน้ำหนัก Self-Weight ของตัวโครงสร้างที่ลดลง
อาคารโถงกว้าง ดีไซน์ไร้เสา
สำหรับอาคารที่ต้องการออกแบบให้มีลักษณะของโถงดูกว้าง โปร่งโล่ง และมีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น แน่นอนว่าการออกแบบโครงสร้างด้วยการเลือกใช้เหล็ก SM520 จะสามารถช่วยให้เสาและคานดูเล็กลง ทำให้มีระยะ Celling Height เพิ่มขึ้น ช่วยให้อาคารโปร่งโล่ง และมีมุมมองที่กว้างขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งหากต้องการออกแบบโครงสร้างอาคารแบบไร้เสา เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร เหล็ก SM520 ยังสามารถรับน้ำหนักกับการออกแบบโครงสร้าง Long Span และ Cantilever ได้เป็นอย่างดี
อาคารประหยัดต้นทุนก่อสร้าง
เพราะเหล็กเกรด SM520 เป็นเหล็กที่มีกำลังในการรับน้ำหนักสูงกว่าเหล็กเกรดทั่วไปถึง 50 % เมื่อเทียบกับการรับแรงของเหล็กเกรดธรรมดา SS400 แต่มีราคาต่อหน่วยเพิ่มขึ้นเพียง 2-3 % การเลือกใช้เหล็กเกรด SM520 จึงสามารถช่วยประหยัดน้ำหนักเหล็กโครงสร้างที่ต้องใช้ในส่วนต่างๆ ได้ และยังคุ้มค่ากับการลงทุนประหยัดทุนก่อสร้างได้อย่างลงตัว
อย่างไรก็ตามอาคารทั้ง 3 ประเภทที่ได้กล่าวมากอาจถูกรวมอยู่ในอาคารแห่งเดียวก็เป็นได้ เพราะ เหล็กเกรด SM520 สามารถตอบโจทย์งานก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพครบทุกประการ ตั้งแต่ส่วนของงานโครงสร้างรากฐาน การเพิ่มพื้นที่ใช้สอย รูปลักษณ์ความสวยงาม และยังคุ้มค่าประหยัดต้นทุนได้มากกว่า