สำหรับท่านที่สนใจด้านนวัตกรรมอาคารและงานสถาปัตยกรรม ในบทความนี้ผมจะพาไปชม นวัตกรรมการออกแบบจาก Zaha Hadid Architects กับโปรเจกต์ Leeza SOHO Beijing ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเสมือนประติมากรรมในคราบสถาปัตยกรรม ที่เป็น Iconic ยุคใหม่ของกรุงปักกิ่ง
ก่อนจะไปดูว่านวัตกรรมของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ?
ลองคิดภาพตามนะครับว่าทำไมประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและเป็นอารยะมักจะมีการสร้างสถาปัตยกรรมที่ต้องออกแบบอย่างปราณีตและใช้งบประมาณการก่อสร้างไปมากมาย สิ่งสำคัญเพราะอาคารเหล่านี้ไม่ใช่แค่การสร้างขึ้นมาเพื่อแค่ประโยชน์ใช้สอยของพื้นที่เท่านั้น
แต่มัน คือ การสร้างสุนทรียภาพของเมือง และเป็นการค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ ของการออกแบบและการก่อสร้างอาคารไปในตัว
สำหรับประเทศจีน เมืองหลวงสำคัญ คือ ปักกิ่ง เป็นเมืองที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจมากมาย งานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นจึงเสมือนการสร้างแบรนด์ของเมืองปักกิ่งไปในตัวด้วย
โปรเจกต์ Leeza SOHO อาคารสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงปักกิ่ง มีเป้าหมายจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญของกรุงปักกิ่ง โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้
ชื่อโครงการ : Lize SOHO ปักกิ่ง
พื้นที่ไซต์ : 30,688 m2
พื้นที่รวม : 172,800 m2 (1,860,000 ตารางฟุต)
ความสูง : 200 เมตร (50 ชั้น - 46 เหนือพื้นดิน, 4 ใต้ดิน)
ปีที่ก่อสร้างโดยประมาณ : 2558 - 2562
ต้นทุนการก่อสร้าง : 288 ล้านเหรียญสหรัฐ
และผู้ที่เกี่ยวข้องในการสร้างสรรค์ผลงานสถาปัตยกรรมแห่งนี้ ประกอบด้วย
สถาปนิก : Zaha Hadid Architects
ผู้อำนวยการโครงการ : Satoshi Ohashi
วิศวกรโครงสร้าง : Bollinger + Grohmann , CABR (สถาบันวิจัยอาคารแห่งประเทศจีน), BIAD (สถาบันการออกแบบสถาปัตยกรรมปักกิ่ง)
ผู้รับเหมาก่อสร้างอาคาร : Lingyun, Yuanda
เทคโนโลยีที่ทำให้ Leeza SOHO มีความโดดเด่นเฉพาะตัว และเป็นเสมือนประติมากรรมในคราบสถาปัตยกรรมยุคใหม่ กลางเส้นขอบฟ้าของกรุงปักกิ่ง
Building Tech Key Highlight
Zaha Hadid Architects ออกแบบพื้นที่ในส่วนเอเทรียมใจกลางอาคาร ด้วยการใช้เทคโนโลยีโครงสร้างแบบเกลียวคู่ที่สูงที่สุดในโลก 198 เมตร โดยรูปทรงโครงสร้างถูกออกแบบให้ล้อไปกับลักษณะของเกลียว DNA ที่มีการบิดอย่างอิสระ ซึ่งในการออกแบบหากมองในอีกมุมหนึ่งภาพที่เราเห็นจะมีความคล้ายกับนักเต้นที่สง่างาม และยืนตระหง่านตา กลางกรุงปักกิ่ง
โครงสร้างแบบเกลียวคู่ ถือเป็นนวัตกรรมที่รวมทั้งความงดงามสถาปัตยกรรมและความก้าวหน้าทางวิศวกรรมเข้ามาไว้ด้วยกัน
2. เอเทรียมอันงดงามแห่งนี้ถูกมองว่าเป็นพื้นที่สาธารณะในร่มแห่งใหม่สำหรับเมือง โดยทำหน้าที่เชื่อมต่อ Space ภายในอาคาร กับ Plaza ภายนอกอาคาร
3. การออกแบบแสงสว่าง เป็นการทำงานร่วมกันกับสถาปนิกหลัก และบริษัท Leuchte ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบแสงสว่างทางสถาปัตยกรรม โดยคอนเซปต์หลักคือ เกลียวที่บิดคู่กันไปจะเปิดพื้นที่ในส่วนกลางของแต่ละชั้น เพื่อให้สามารถเพลิดเพลินไปกับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านห้องโถงโปร่งใสที่มีความสูงเกือบ 200 เมตร และทำให้มองเห็นทัศนียภาพของเมืองได้อย่างต่อเนื่องและมีมิติที่แปลกตาออกไป
4. การออกแบบเชิงประสบการณ์ เพื่อสร้างมุมมองที่ทำให้ผู้เข้าใช้งาน เมื่อมองขึ้นไปจากด้านในของอาคาร เส้นสายตาจะวนขึ้นไปตามเส้นเกลียว ไฮเปอร์โบลา DNA ราวกับว่าคุณกำลังยืนอยู่ในอาคารจากอนาคตและให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ เป็นการสะท้อนถึง City Branding ของกรุงปักกิ่ง
5. การออกแบบสถาปัตยกรรมให้เป็น Iconic หรือ Landmark ของเมือง โดยรูปแบบของการออกแบบ ได้ถูกคิดให้สอดคล้องกับบริบทของเมืองโดยรอบ โดยส่วนเอเทรียมจะบิด 45 องศาเพื่อให้สอดคล้องกับแกนถนน เมื่อมองจากมุมภายนอกจะเห็นอาคารนี้เด่นตระหง่านเลยทีเดียว
Leeza SOHO Beijing ถือเป็นอีกผลงานทางด้านสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าในเชิงนวัตกรรมของอาคารในระดับโลกเลยก็ว่าได้ หวังว่าเราจะได้เห็นอาคารแบบนี้ในประเทศของเราบ้างครับ
บทความโดยกองบรรณาธิการ InnovatorX lab
อ้างอิง
ติดต่อลงโฆษณา หรือ ติดต่อธุรกิจได้ที่
Line OA : @innovatorx หรือ https://www.facebook.com/InnovatorXbyWazzadu