การเลือกวัสดุสำหรับการก่อสร้างเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของอาคารที่จะสร้าง ยิ่งถ้าใครเลือกจะสร้างบ้านเอง ควรที่จะศึกษาเรื่องของวัสดุให้รอบด้านและ Smartblock ในฐานะหนี่งในผู้ผลิตวัสดุประเภทอิฐก่อสร้าง จะมาอธิบายถึงความแตกต่างกับคุณสมบัติระหว่าง อิฐมอญ, อิฐบล็อกและอิฐมวลเบา เพื่อช่วยตัดสินใจในการเลือกวัสดุที่เหมาะสม
แต่ก่อนที่จะไปเลือกวัสดุกันนั้น มีไกด์ไลน์สั้นๆ มาแชร์ไว้ใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาครับ
แนวทางการเลือกใช้อิฐแต่ละประเภทตามปัจจัยที่ควรพิจารณา มีดังนี้
1. การใช้สอยหลัก : อาคารหรือจุดที่ต้องการก่อสร้างนั้น เน้นใช้สอยเรื่องไหนเป็นหลัก เช่น สร้างเป็นบ้านพักส่วนตัว, ทำเป็นผนังรั้วกั้น, สร้างเป็น Façade ตกแต่ง หรือแม้แต่ก่ออิฐเพื่อใช้เป็นเคาน์เตอร์ครัว เป็นต้น
2. ช่วยแก้ Pain Point ด้านการใช้งาน : ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วข้อนี้จะสัมพันธ์กับข้อแรก สมมติว่าคุณต้องการออกแบบเป็นแค่ที่พักชั่วคราว เป็นรีสอร์ทหรือโฮมสเตย์แล้วบริเวณนั้นๆ ค่อนข้างร้อนอบอ้าวมาก สิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องอุณหภูมิภายในอาคารคือ การเลือกใช้วัสดุที่เป็นฉนวนกันความร้อนได้ หรือสามารถระบายอากาศให้ถ่ายเทความร้อนออกไป
3. จุดประสงค์ด้านการลงทุน : เพราะการก่อสร้างไม่ใช่แค่คำนวณต้นทุนไม่ให้บานปลาย แต่ควรคำนึงถึงปัจจัยในระยะยาวว่าลงทุนแล้วตอบโจทย์จุดประสงค์ของเราหรือไม่ เช่น มองว่าเป็นความคุ้มค่าในอนาคต เราเลือกใช้วัสดุที่ช่วยให้บ้านเย็นเพื่อลดอุณหภูมิลง เราจะได้เปิดแอร์น้อยลงแล้วประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว หรือมองในมุมการลงทุนก่อสร้างงานโครงการ งานห้างสรรพสินค้าและร้านค้าที่ต้องเร่งเวลาให้เสร็จไวๆ ไม่ให้ล่าช้า เพราะอาจส่งผลต่อเรื่องค่าปรับได้ เป็นต้น เท่ากับว่าเหตุผลในการเลือกอิฐแต่ละประเภทจะแตกต่างกันตามจุดประสงค์ของการลงทุนที่ต้องการ
4. ความสะดวกในการติดตั้ง : เพราะงานก่อสร้างย่อมใช้อุปกรณ์มากมาย รวมถึงแรงงานของช่าง ปัจจัยนี้หลายคนอาจตกหล่นไปทำให้อาจเกิดการสะดุดตอนลงมือหน้างานได้ ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีช่วยพัฒนาวัสดุก่อสร้างให้ติดตั้งได้ง่ายขึ้น ถ้าผลิตภัณฑ์ของที่ไหนมีการบอกว่าสะดวกในเรื่องขนย้าย ติดตั้งง่าย ลดการใช้แรงงานและอุปกรณ์ ก็น่าสนใจที่จะพิจารณาเลือกใช้
5. มาตรฐานที่ผ่านการรับรอง : เป็นปัจจัยที่อยากให้คำถึงนึงและยังสามารถช่วยตัดตัวเลือกได้ดีทีเดียว ยิ่งในสถานการณ์ที่ต้องสเปคงานโครงการใหญ่ๆ ด้วยแล้ว มีหลายองค์กรที่เข้มงวดเรื่องคุณภาพและการตรวจสอบด้านมาตรฐานว่าผลิตภัณฑ์ไหนที่ได้รับ certificate ตรงกับที่กำหนดหรือไม่ หรือมีสัญลักษณ์การรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ จะช่วยให้องค์กรนั้นมีความมั่นใจว่าได้รับของที่มีประสิทธิภาพผ่านตามเกณฑ์นั้นๆ
เพื่อให้เห็นภาพการเปรียบเทียบได้ชัดขึ้น จะขอกล่าวถึงนิยามของอิฐทั้ง 3 แบบก่อน แล้วทิ้งท้ายด้วยตารางที่รวบรวมการให้คะแนนที่สรุปเป็นแนวทางเบื้องต้น หากใครสนใจอิฐชนิดไหนเป็นพิเศษ ควรสอบถามกับแบรนด์ที่สนใจสั่งซื้อเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นั้นให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อจริง
เรียงจากซ้ายไปขวา อิฐมอญ อิฐบล็อก อิฐมวลเบา
อิฐมอญ
มีลักษณะสีส้มแดง ผลิตจากส่วนประกอบที่ทำมาจากดินเหนียวและแกลบที่ได้ผสมกันใส่ลงแบบพิมพ์แล้วนำมาเผาในอุณหภูมิ 700-800 °C มักใช้ในงานก่อสร้างอาคารหรือบ้านพักอาศัยขนาด 1-2 ชั้น นิยมก่อเป็นผนังโชว์แนวด้วยความที่มีสีสันกว่าอิฐประเภทอื่น ใช้ทำได้ทั้งผนังภายนอกและภายใน ผนังห้องน้ำ รวมถึงเป็นเคาน์เตอร์ปูน
อิฐบล็อก
ส่วนใหญ่จะมีสีเทาตามสีของส่วนประกอบที่ใช้ผลิตนั่นก็คือทำมาจากปูนซีเมนต์และทราย ซึ่งถูกผลิตในลักษณะระบบอุตสาหกรรม อิฐบล็อกมีลักษณะเด่นคือ มีรูกลวงตรงกลางช่วยให้นำหนักเบาขึ้นและช่วยถ่ายเทความร้อนได้ดี จึงนิยมใช้ในก่อสร้างมากกว่าแบบอิฐมอญและใช้ก่อกำแพง, ก่อแนวระเบียง, ก่ออ่างล้างหน้าหรือเคาน์เตอร์ปูน รวมถึงผนังกันตก
อิฐมวลเบา
อิฐประเภทนี้ผลิตจากวัตถุดิบหลายชนิด ได้แก่ ทราย, ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์, ปูนขาว, น้ำ, ยิปซั่มและผงอลูมิเนียมที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มฟองอากาศนำมาผสมกันในปริมาณที่เหมาะสม จากนั้นจะผ่านการอบไอน้ำด้วยแรงดันสูงทำให้มีน้ำหนักเบากว่าอิฐชนิดอื่น อีกทั้งเป็นเสมือนฉนวนกันความร้อนที่ช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายใน ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้รับความนิยมในงานก่อสร้างอย่างแพร่หลาย
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติเฉพาะตัวของวัสดุอิฐแต่ละประเภท
คุณสมบัติ | อิฐมวลเบา | อิฐบล็อก | อิฐมอญ |
ความแข็งแกร่ง | มากที่สุด | น้อย | มาก |
น้ำหนักของวัสดุ | น้อย | มากที่สุด | มาก |
ความทนทานในการรับแรงอัด | มากที่สุด | น้อย | มาก |
ความทนทานต่อการรับแรงกระแทก | มากที่สุด | น้อย | มาก |
การป้องกันเสียง | มาก | น้อย | มากที่สุด |
อัตราการทนไฟ | มากที่สุด | น้อย | มาก |
กันความร้อน | มากที่สุด | น้อย | มาก |
จากตารางที่เห็นไปนั้น ได้สรุปเพื่อให้เห็นภาพมากกว่าที่จะใช้ตัดสิน เพราะสุดท้ายแล้วผลิตภัณฑ์ของแต่ละที่ย่อมมีจุดเด่น-จุดด้อยแตกต่างกัน ดังนั้นควรเช็คสเปคทุกครั้งเมื่อต้องการสั่งซื้อ
แต่ถ้าใครมีความสนใจอิฐมวลเบาอยู่และกำลังเลือกหา ในช่วงหลังมานี้ที่ Smartblock ตระหนักถึงเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้นและหมั่นพัฒนาสินค้าอยู่เสมอจนได้รับมาตรฐานที่สำคัญเหล่านี้
1. เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint) หรือฉลากลดโลกร้อน
2. มาตรฐาน ISO 9001 : 2015 ระบบบริหารงานคุณภาพ (Quality Management System QMS)
3. มาตรฐาน ISO 14001 : 2015 มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environment management System)
4. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.1505-2541 โดยทุกก้อนมีคุณภาพสม่ำเสมอเท่ากัน
สนใจสั่งซื้อ อิฐมวลเบา Smart Block G4 ติดต่อแบรนด์ Smartblock ได้ที่ https://www.smartblock.co.th เพื่อสั่งซื้อสินค้า